พาเที่ยว เขาช่องลม จ. นครนายก เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพ วิวสวยสุด

เขาช่องลม สถานที่เที่ยวยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะเป็น Blogger Youtuber หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ จะต้องไปเยือน บอกเลยว่าช่วงนี้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมาก วันที่จืดไปก็คือคนต่อแถวซื้อตั๋วลงเรือกันเยอะมากๆ แถมฝนยังตก ตลอดทาง วันนี้เราได้เก็บภาพเขาช่องลมในบรรยากาศฝนพรำมาฝากกันค่ะ

ทริป เขาช่องลม แบบวันฝนพรำ

ถือว่าเป็นทริปที่แอบทรหดหน่อย ๆ เนื่องจากว่าสัปดาห์ที่เราไปเป็นสัปดาห์ที่พายุเข้า ฝนตกหนัก เรียกได้ว่าตลอดทั้งคืนเพราะก่อนหน้าจะไป เขาช่องลม เราไปแวะกางเต็นท์ที่ บ้านสวนคลองมะเดื่อ มาก่อน ใจคิดว่าเออวันต่อมา ฝนจะไม่ตกละ ก็ไม่ตกแค่ตอนก่อนเข้าไปเขาช่องลม แต่พอถึงเท่านั้นแหละ ฝนก็สาดลงมาทันที แต่ก็ไม่ย่อท้อ เพราะท้อมีไว้ให้ลิงถือเท่านั้น เราเลยลุยต่อ ไปค่ะ ไปเที่ยวกัน

เราสามารถไปรับตั๋วเพื่อต่อคิวมาลงเรือได้ที่โต๊ะจองตั๋วลงเรือเที่ยวเขาช่องลม จะอยู่ทางซ้ายของลานจอดรถ ใกล้ๆ กับจุดจอดรถราง เดินเข้าไปแจ้งจำนวนคนแล้วเขาจะให้ตั๋วเรามา แล้วพอถึงคิว ก็จะเรียกละให้เราเดินมาที่ทางลงค่ะ ค่าบริการขึ้นเรือท่านละ 200 บาท แต่ถ้าใครมาเป็นกลุ่ม สามารถจองเหมาเรือได้เช่นกัน

ดูจากภาพจะรู้เลยว่านอกจากฝนที่โปรยปรายลงมา ที่เป็นอุปสรรคในการเที่ยวของเราครั้งนี้ ยังมีบันไดทางลงเรือที่ทอดยาว บอกเลยว่าใครที่จะมาต้องออกกำลังกายมาหน่อยนะ ขาลงยังชิลๆ ขาขึ้นนี่แทบต้องร้องขอชีวิตกันเลยแหละ แต่อยากให้สู้เพื่อไปถึงเขาช่องลมกันนะ เพราะสวยมากจริง ๆ

จุดแรกที่เรือจะพาเรามาลงเพื่อชมธรรมชาติก็คือ ทางต้นน้ำ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ให้เราเห็นต้นน้ำ ว่าน้ำไหลลงมาอย่างไร ธรรมชาติตรงนี้เป็นยังไงบ้าง และด้วยความที่เรามาช่วงที่ฝนตก ดินที่นี่จะเป็นดินเหนียวที่โดนน้ำและค่อนข้างลื่น แทบจะต้องเอาไม้เท้าเลย เพราะว่าลื่นมา ต้องประครองตัวเองเดินกันดี ๆ เลยค่ะ โดยจุดนี้จะให้เวลาเราเดินเล่น 40 นาทีค่ะ แล้วกลับไปนั่งเรือลำเดิมเพื่อไปเขาช่องลมกันค่ะ

จุดนี้ จะเป็นจุดไฮไลท์หรือที่เขาเรียกกันว่าเขาช่องลม บอกเลยว่า ต้องเพิ่มสกิลขาและเท้าให้ดี เพราะตรงนี้ลื่นกว่าจุดเมื่อสักครู่อีก ใครที่ใส่รองเท้าแตะแบบเราก็คือลื่นดินเปื้อนไปครึ่งตัว แต่ดูวิวและธรรมชาติที่ได้เจอแล้ว คุ้มที่จะตัวเปรอะค่ะ ดังนั้นถ้าอยากเดินแล้วไม่ลื่น แนะนำใส่ผ้าใบหรือรองเท้าที่ไม่ได้ลื่นง่ายมานะ จุดนี้จะให้เราเดินเที่ยวชม 40 นาทีเช่นกัน แล้วเรือจะพาเรากลับไปส่งยันจุดลงเรือค่ะ

เก็บภาพขาขึ้นจากเรือไปด้านบนเขื่อนมาให้ดูค่ะ แค่เห็นทางก็ถอนหายใจไปเป็นสิบรอบ ที่เป็นอุปสรรคอีกอย่างก็คือการใส่แมสก์นี่แหละค่ะ เพราะเราต้องป้องกันทั้งตัวเองและนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ด้วย ทำให้เดินมาเรื่อยๆ นอกจากเมื่อยก็คือหายใจไม่ทันนี่แหละค่ะ แต่บอกเลยว่าถ้าได้ไปสัมผัสธรรมชาติแบบที่เราไป จะหายเหนื่อยเลยค่ะ ใครอยากลองไปกันได้นะคะ ปัดแมพไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชลได้เลยค่ะ พิกัด : เขื่อนขุนด่านปราการชล และถ้าใครอยากเห็นบรรยากาศแบบเต็ม ๆ เข้าไปดูได้ที่ช่อง บันทึกของ Jaojeud ได้เลยค่า อยู่ท้าย ๆ คลิปเลยน้า